ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำประชาชนทุกหมู่เหล่า บาคาร่า ร่วมพิธีวางพวงมาลา และถวายบังคม เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
วันนี้ 13 ตุลาคม 2561 เวลา 09.30 น. ณ เวทีกลางสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นางสุทธินีย์ ทวิพัฒน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน นำ นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ ,นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต,นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช ปลัดจังหวัดภูเก็ต,นายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ เอกชนและประชาชน กว่า 2,000 คน ร่วมพิธีวางพวงมาลา และถวายบังคม เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
โอกาสนี้จังหวัดภูเก็ตขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในเวลา 18.30 น. เป็นต้นไป กิจกรรมประกอบด้วยการถวายบังคมเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ประธานในพิธีนำกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ,ผู้ร่วมพิธีร่วมจุดเทียนและยืนสงบนิ่งเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นเวลา 89 วินาทีพร้อมเปิดดนตรีบรรเลงเพลง”พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์”
โดยขอความร่วมมือข้าราชการ สวม ชุดเครื่องแบบปกติขาว ,องค์กรเอกชน นักเรียน นักศึกษาเครื่องแบบของหน่วยงาน ,จิตอาสาแต่งกายด้วยชุดจิตอาสา และประชาชนทั่วไปชุดสุภาพโทนสีเหลือง
แห่พระรอบเมืองวันที่ 3 ประชาชน-นทท.แห่ร่วมชมขบวนจำนวนมาก วันนี้ (12ต.ค.) เป็นวันที่ 3 ของการแห่พระรอบเมือง (อิ้วเก้ง) โดยวันนี้เป็นการแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ (ศาลเจ้าสามกอง) ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต โดยขบวนแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าสามกอง ออกจากศาลเจ้าตั้งแต่เวลา 07.09 น. ไปตามถนนเยาวราช-ถนนถลาง-ถนนพังงา ผ่านเข้าถนนมนตรี ถนนภูเก็ต และสิ้นสุดที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน
ซึ่งในขณะขบวนแห่พระแห่ผ่านประชาชน และนักท่องเที่ยวได้ตั้งโต๊ะบูชา และจุดประทัดต้อนรับซึ่งบรรยากาศการแห่พระของศาลเจ้าสามกองเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชน และนักท่องเที่ยวมารอต้อนรับขบวนแห่พระตามถนนสายต่างๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะที่บริเวณลานนวมินทร์ ถนนภูเก็ต ทางเทศบาลนครภูเก็ต และหน้าโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตได้ตั้งโต๊ะไหว้รับพระโดยมีประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติร่วมรับพระจำนวนมาก
ส่วนที่บริเวณวงเวียนสุรินทร์ (หอนาฬิกา) ก็มีประชาชน และนักท่องเที่ยวมาร่วมรอรับขบวนพระอย่างคึกคักเช่นกัน โดยประชาชนร่วมต้อนรับไปจนถึงบริเวณสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต และตลอดเส้นทางที่บวนแห่พระผ่านจะมีการจุดประทัดเสียงดังตลอดเส้นทาง
“สุเทพ” เดินสาย เช็คแนวร่วมกระบี่
“สุเทพ” เดินสายเช็คแนวร่วมกระบี่ ยืนยันอีกครั้งไม่รับตำแหน่งการเมือง แต่หวั่นระบอบทักษิณรีเทิร์น ย้ำไม่แทรกแซงเลือกหัวหน้าพรรค ปชป.
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 ต.ค.61กระบี่ 11 ต.ค.61 เวลา 1040น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยและผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติได้เดินทางมาพบปะมวลชน กปปส. จ.กระบี่ ณ โรงแรมบุญสยาม ถ.เจ้าคุณ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ วัตถุประสงค์เพื่อเปิดเวทีเสวนา “ลุงกำนัน รับฟังปัญหา และเยี่ยมเยือนพี่น้อง กปปส.” มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเวทีเสวนาฯ ประมาณ 200 คนโดยมี นายสาคร เกี่ยวข้อง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ นายป้อมเพชร สุคนธกนิษฐา รองนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ ร้อยตำรวจตรี เสริมชัย คงบรรณ รองนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ และนายชวน ภู้เก้าล้วน แนวร่วม กปปส.กระบี่ ให้การต้อนรับพร้อมกีนนี้ก่อนเวทีเสวนา นายสุเทพ ฯได้มีการจัดโต๊ะจีนเลี้ยงอาหารเที่ยงจำนวน 37 โต๊ะ ขึ้นภายในห้องอาหาร ของโรงแรม บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น
โดยนายสุเทพ กล่าวว่า ตนเดินทางลงพื้นที่ในฐานะประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ เพื่อพบปะประชาชนในหลายพื้นที่ เพื่อพูดคุยเรื่องการปฏิรูปประเทศหลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ที่ผ่านมาประชาชนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศใน 5 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย การปฏิรูปการเมือง ประชาชนต้องการเห็นการเมืองเพื่อประชาชนคนไทย และต้องบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีการใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง
ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าการปฏิรูปการเมืองได้เดินไปในระดับหนึ่งแล้ว เรื่องที่สอง เรื่องการปราบปรามการคอรัปชั่น สามการกระจายอำนาจการปกครองให้ท้องถิ่น สี่การปฏิรูปการศึกษา เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม และห้า ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่ง คสช.ดำเนินการไปแล้วในบางเรื่อง แต่ยังมีประเด็นต่อเนื่องที่ต้องทำ
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า หากไม่มีการขับเคลื่อนจากภาคประชาชน การปฏิรูปต่างๆ ก็จะไม่สำเร็จ ตนจึงต้องลงพื้นที่เพื่อบอกกับประชาชน ว่าให้เตรียมความพร้อม เมื่อถึงเวลาต้องรวมพลังกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการปฏิรูปเป็นผลสำเร็จ โดยตนจะลงพื้นที่ทุกจังหวัด ส่วนเรื่องของพรรครวมพลังประชาชาติไทย นั้น ตอนนี้รอเพียงกระบวนการรับรองจาก กกต.เพื่อให้เป็นพรรคที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย บาคาร่า